30 มีนาคม 2552 ตอนเช้า.. ผมไปเยี่ยมภรรยาผมที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลตามปกติ.. เราทั้งคู่ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร เธอมักจะมีอาการไข้ ในตอนเย็น ๆ บางครั้งก็หายใจไม่ออก และมีอาการไอจนน่ากลัว เธอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการดังกล่าว ตัวผมเองไม่เคยเฉลียวใจสักนิดว่าอาการที่เธอเป็นตอนนั้นมันคืออาการของคนเป็นเอดส์ ตอนสายขณะผมกำลังขายของอยู่ที่ร้าน ภรรยาโทรหาผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอบอกแต่ว่าให้ผมรีบไปหาเธอที่โรงพยาบาลโดยเร็ว ผมรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างประหลาด เมื่อไปถึงตึกที่เธอพักรักษาตัวอยู่ ผมเห็นเธอนั่งอยู่คนเดียวนอกห้องพัก บริเวณด้านข้าง พอเธอเห็นหน้าผม เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือกับผม
หมอบอกว่าเธอเป็นเอดส์ ผมรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว ขนลุกซู่.. ถ้าเธอเป็น.. ผมก็ต้องเป็น.. ผมรู้สึกสับสนไปหมด แต่ตอนนั้นพยายามตั้งสติ ปลอบใจเธอ ทั้ง ๆ ที่จิตใจกำลังสับสนไปหมด เราจะติดเอดส์หรือเปล่า? ผมเข้าไปติดต่อกับทางโรงพยาบาลเพื่อเตรียมพาเธอกลับ พยาบาลบอกว่าอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงค่อยกลับมารับเธอ เพราะอยากให้เธอคุยกับเจ้าหน้าที่ก่อน ผมตกลง ผมบอกกับเธอว่า คงจะไปตรวจเลือดก่อน เธอบอกว่า ภาวนาอย่าให้ผมเป็น ผมยิ้ม แต่สะอื้นในใจ เพราะผมคิดว่าคงไม่รอดแน่.. ผมไปตรวจที่แลป.. ประมาณ 9 โมง เค้านัดฟังผลตอนเที่ยง ระหว่างนั้นผมไปหาแม่ บอกความจริงกับท่าน เพราะผมคิดว่าตัวเองต้องติดแน่ ๆ ผมกลับไปที่โรงพยาบาลใหม่ ภรรยาผมให้ไปหาที่ห้อง.. จิต ครั้งนี้สีหน้าเธอดีขึ้น เธอบอกว่าอยากให้ผมเข้าไปฟังด้วย เจ้าหน้าที่ที่พบเป็นพยาบาลแนะนำตัวเองว่าชื่อนก ซึ่งต่อไปผมขอเรียกเธอว่าพี่นก ผมได้บอกเธอว่าผมได้ตรวจเลือดกับทางแลปไว้ เธอนัดพบผมใหม่ตอนบ่าย ไม่ว่าผลเลือดจะบวกหรือลบ เราสองคนออกจากโรงพยาบาลไปหาคนรู้จักระหว่างรอฟังผลเลือด ประมาณเที่ยงสิบนาที ผมไปที่แลปเพื่อฟังผลเลือด ผลไม่ผิดไปจากที่ผมคาด ผมยิ้มรับ.. แต่ความมั่นใจในตัวเอง ความฝันเกี่ยวกับอนาคต พังทลายลง ผมกลับไปพบภรรยาที่บ้านคนรู้จัก บอกความจริงกับเธอ จากนั้นไปบอกแม่ถึงผลเลือด ท่านนิ่งไปผมรู้ว่าท่านเสียใจ.. ถึงเวลานัดผมกับภรรยาไปหาพี่นกพร้อมกัน หลังจากรออยู่พักใหญ่ เราก็เข้าไปคุยในห้องที่จัดไว้ พี่นกให้คำแนะนำหลายอย่าง รวมทั้งหนังสือคู่มือสำหรับผู้ติดเชื้อฯ และนัดตรวจซีดีโฟร์ในวันที่ 2 เมษายน พร้อมทั้งขอตรวจเลือดผม เพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ผมเซ็นต์ยินยอมและเข้าร่วมโครงการรักษา โดยใช้สิทธิตามบัตรทอง
เห็นใจแต่ขอเป็นกำลังใจ....แล้วแน่ใจหรือว่าคุณไม่เป็นผู้นำมาติดภรรยา...เพราเธออรอนแอกว่าคุณไง..โรคเลยรุมล้อมก่อน..แต่ก็ดีใจนะที่รักกัน ยอมรับ ตอนนี้โรคนี้อิยู่ได้สบายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบกำลังใจเท่านั้นที่จะทำให้เราอยู่ได้นานถ้าเราไม่คิดมากสามารถอยู่ได้เป็น20ปีเพราะคนแถวบ้านก็เป็นเค้ายังแต่งงานใหม่ด้วยช้ำ(กับคนเป็นเอดส์ด้วยกัน)เค้าก็รักกันดีไม่เห็นเค้าคิดมากเลยเค้ายังต้มส้มต้มให้กินก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยมันไม่ได้ติดกันง่ายขนาดนั้น
ตอบลบอยากทราบว่าตอนนี้พี่เป็นอย่างไรบ้าง ฉันเองก็ท้องและตรวจเจอว่าได้รับเชื้อ อาการคงเหมือนกับพี่ตอนนั้น หมอให้ยาต้าน แต่ก็กลัวผลข้างเคียงของยาต้านจะทำให้แสดงอาการให้คนอื่นรู้ อยากคุยและอยากได้แนวทางการดำรงชีวิตอย่างคนที่ได้รับเชื้อและตั้งครรภ์เขาทำอย่างไรและเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ
ตอบลบรู้แค่ว่ามันอยู่กับผมมา 11 ปีแล้วครับ ถ้าผมตายมันก็ตายด้วย
ตอบลบ