27 สิงหาคม 2552

เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์

รับเชื้อมาแล้ว เชื้อไปไหนบ้าง
เมื่อ เชื้อเข้าสู่ร่างกาย มันก็ถูกเม็ดเลือดขาวจับกิน ถ้าเป็นเชื้ออื่นก็โดนเขมือบเรียบร้อย แต่นี่เพราะมันคือเอดส์ วายร้ายไวรัสเอดส์ก็จัดการก็อปปี้ตัวเอง จนเป็นไวรัสตัวใหม่แล้วก็ก็อปปี้ๆๆๆ จนเม็ดเลือดขาวแตกตาย มันก็ออกมาเวียนว่ายอยู่ในกระแสเลือด (แล้วก็ไปโจมตีเม็ดเลือดขาวตัวอื่นต่อไป) ถึงตอนนี้ร่างกายก็จะสร้างภูมิต้านทาน (Antibody) ขึ้นมา
ช่วงระยะเวลา จากรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จนเชื้อไวรัสออกสู่กระแสเลือด ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 - 6 สัปดาห์ ช่วงนี้ถ้าจะตรวจหาว่ามีเชื้อเอดส์หรือไม่ ก็สามารถตรวจได้ โดยตรวจ "แอนติเจน"
กว่าร่างกายจะสร้างแอนติบอดี ก็ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน ดังนั้น ถ้าจะตรวจแอนติบอดีได้ อย่างเร็วที่สุดก็ 3 สัปดาห์ (ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะมีแอนติบอดีขึ้นเร็วอย่างนี้เสมอไป)

เลือดบวก แปลว่าอะไร ?
ก่อน อื่น ขอทำความเข้าใจกับคำว่า "บวก" และ "ลบ" ก่อน คำนี้แปลมาจากภาษฝรั่ง ว่า "positive" และ "negative" ไม่รู้ใครเป็นคนแปลเป็นคนแรก แล้วก็ใช้กันมาโดยตลอด แหม..เล่นแปลกันตรงตัวเลย ความจริงมันไม่ใช่ บวก หรือ ลบ ในความหมายทางคณิตศาสตร์ แต่หมายถึงว่า "มี" หรือ "พบเชื้อ" หรือ "พบร่องรอย" เช่น เราเจาะเลือดมาจำนวนหนึ่ง อยากรู้ว่าเลือดนี้ มีเชื้อ A (สมมุติว่าเรียกเชื้อนี้ว่า เชื้อ A) เราก็เอาน้ำยาที่ตรวจหาเชื้อ A มาทำปฎิกริยากับเลือด ถ้า "มีเชื้อ" หรือ "มีร่องรอย" ฝรั่งก็เรียก "positive" เราก็เรียกว่า "เลือดบวกต่อเชื้อ A"
ถ้าอยากรู้ว่าติดเชื้อ ซิฟิลิสหรือเปล่า เราก็เอาน้ำยาตรวจหาซิฟิลิสมาทำ ปฎิกริยากับเลือด ถ้ามีเชื้อซิฟิลิส ก็เรียกว่า เลือดบวกต่อซิฟิลิส ถ้าตรวจการตั้งครรภ์ เอาเลือดมาหาฮอร์โมน ถ้ามีฮอร์โมนที่แสดงว่าตั้งครรภ์ ก็เรียกว่า เลือดบวกต่อการตั้งครรภ์ ดังนั้นจึงอยู่ที่ว่า เอาเลือดไปตรวจหาอะไร ถ้าตรวจหาเอดส์ แล้วให้ผลบวก ก็บอกว่า เลือดบวกต่อเชื้อเอดส์ ดังนั้น "เลือดบวก" ต้องระบุให้ชัดว่าบวกจากอะไร จะพูดว่าเลือดบวกเฉยๆ ไม่ได้

"ติดเชื้อ" กับ "เป็นเอดส์" เหมือนกันไหม
" ติดเชื้อ" หมายถึงรับเชื้อมาแล้ว มีเชื้อในร่างกายของเรา ตรวจเลือดเอดส์ก็ให้ผลบวก แต่ก็ยังไม่มีอาการอะไร บางคนกินยายับยั้งเชื้อเอดส์ พร้อมกับรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ก็สามารถมีชีวิตเหมือนคนปกติ (ดูหน้าตาก็ไม่รู้) เพียงแต่มีเลือดเอดส์เป็นบวกเท่านั้น
"เป็นเอดส์" หมายถึงการมีอาการแทรกซ้อนต่างๆแสดงออกทางร่างกายแล้ว เป็นผลจากที่ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง จนไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรคต่างๆได้

รับเชื้อมาแล้วกี่ปีจึงจะเป็นเอดส์
ส่วน ใหญ่ของผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการ เพียงแต่มีเลือดบวกเฉยๆ บางคนอาจไม่มีอาการอะไรเลย เป็นเวลา 10 ปี ก็มี แล้วนานแค่ไหนที่รับเชื้อแล้วจนมีอาการเป็นเอดส์
หลังรับเชื้อมาแล้ว…………….
    เวลาผ่านไป 1 - 2 ปี มีไม่ถึง 5 % ที่เป็นเอดส์ เวลาผ่านไป 3 ปี ที่กลายเป็นเอดส์ มี 20 % เวลาผ่านไป 6 ปี ที่กลายเป็นเอดส์ มี 50 % เวลาผ่านไป 16 ปี ที่กลายเป็นเอดส์ มี 65 - 100 % เฉลี่ย นับจากรับเชื้อจนเป็นเอดส์ ประมาณ 7 - 11 ปี

รับเชื้อมา แต่เลือดยังไม่บวก จะติดคนอื่นได้ไหม
หมาย ความว่ารับเชื้อมาแล้ว แต่เลือดยังไม่บวก ไปมีเพศสัมพันธ์ จะเอาเชื้อไปแพร่ให้คู่นอนได้ไหม ได้ซิครับ ก็อย่างที่บอก ตอนรับเชื้อมาใหม่ๆ 2 - 6 สัปดาห์ ตรวจหาแอนติบอดียังไม่เจอ แต่เชื้อในเลือดมีแล้วจึงมีโอกาสแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจว่าจะรับเชื้อมาหรือเปล่า ก็คงต้องงดมีเพศสัมพันธ์กับคู่รักหรือภรรยา หรือถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไว้ก่อน (Safety first…ความจริงถ้า first ตั้งแต่ไปเที่ยวมา ก็ไม่ต้องมาวุ่นวายอย่างนี้แล้ว ..เนาะ)

ต้องเตรียมตัวก่อนตรวจเลือดอย่างไร ต้องอดอาหารไหม
ไม่ ต้องเตรียมตัวใดๆทั้งสิ้น แต่ต้องเตรียมเงินกับเตรียมใจครับ เพราะผลการตรวจเลือดเอดส์ไม่เหมือนการตรวจเลือดอย่างอื่น ต้องลุ้นด้วยความระทึกใจ ถ้าผลเป็นบวก คนที่มีภาวะจิตใจไม่เข้มแข็งอาจหวั่นไหวจนเสียสติ หรือตัดสินใจผิดๆ ได้ บางคนเข่าทรุดตกอยู่ในภาวะหมดหวังท้อแท้ แล้วถ้ารู้ไปถึงเพื่อนฝูงก็อาจเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ได้ อาจถึงกับถูกไล่ออกจากงาน หลายหน่วยงานปฏิเสธไม่ยอมรับให้ทำงาน
ดัง นั้นก่อนไปตรวจเลือดจึงต้องเตรียมจิตใจให้ดีว่า ถ้าผลเลือดเป็นบวก เราจะรับสภาพได้ไหม จะเกิดอะไรขึ้น เราจะวางแผนรับมืออย่างไร ถ้ามีแฟน มีภรรยา เราจะทำอย่างไร จะมีบุตรไหม ถ้าจิตใจยังไม่พร้อม ก็รอได้ รอจนกว่าจะพร้อมจึงค่อยไปตรวจ (นี่พูดถึงคนที่มีความเสี่ยงมากๆ นะ เช่นชอบสำส่อนทางเพศ ติดยาเสพติดชนิดฉีด ฯลฯ)

ผลตรวจเลือด จะเป็นความลับแค่ไหน
ปกติ แพทย์จะต้องรักษาความลับของคนไข้เสมอ ยิ่งเป็นเรื่องเอดส์ โรคที่สังคมรังเกียจ ก็ยิ่งต้องรักษาไว้อย่างยิ่งยวด ยกเว้นอยู่สองกรณีที่ เปิดเผยได้ คือ เจ้าตัวเจ้าของเลือดอนุญาต หรือกรณีมีคำสั่งศาล
แต่ก็ ใช่ว่าแพทย์รักษาความลับแล้ว ความลับจะไม่รั่วออกไป เพราะในกระบวนการตรวจเลือดนั้น มีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทังเจ้าหน้าที่ตรวจเลือด ห้องตรวจเลือด เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่อาจรับรู้ได้เช่นกัน

ตรวจเลือดต้องบอกชื่อ บอกที่อยู่หรือไม่
ปกติ ถ้าไปตรวจตามโรงพยาบาล เขาก็มักจะทำบัตร ก็ต้องกรอกชื่อ ที่อยู่ ถ้าคุณไม่อยากให้ใครรู้ ก็คงต้องไปหาโรงพยาบาลอื่นที่ไม่มีใครรู้จักคุณ แล้วทำบัตรใหม่ คุณจะกรอกชื่อปลอม ที่อยู่ปลอมก็ได้ เขาไม่ค่อยเข้มงวดเท่าไหร่ ถ้าคุณไม่เอาบิลไปเบิกที่ไหน หรือจะไปตรวจที่คลินิกนิรนามก็ได้ เขาไม่ถามชื่อคุณ ถ้าเป็นที่กรุงเทพ คลินิกนิรนามที่สภากาชาด ตรงถนนอังรีดูนังก็มี ถ้าเป็นที่ต่างจังหวัดที่มีศูนย์กามโรคตั้งอยู่ก็มี

เลือดเอดส์ "บวก" แล้ว จะเป็น "ลบ" ได้ไหม
ปกติ เมื่อเลือดเอดส์ให้ผลบวก แล้ว (ตรวจยืนยันแล้ว) ก็จะบวกไปตลอดชีวิต จะไม่กลับมาเป็นลบอีก ดังนั้นเมื่อท่านมีเลือดบวก ก็จะเป็นตราประทับติดตัวท่านไปตลอดชีวิต จะเที่ยวก็ระมัดระวังไว้บ้างครับ ควรใส่ถุงยางทุกครั้งนะครับ

ก่อนแต่งงาน ควรตรวจเลือดเอดส์หรือไม่
หลาย คนบอกว่า ตรวจไปทำไม รักกันจะแต่งอยู่แล้ว ถึงเลือดบวก ก็แต่งอยู่ดี มันก็ใช่…ก็เพราะ " แต่งอยู่ดี " นี่แหละที่ต้องตรวจ เพราะถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีเชื้อเอดส์ ก็จะได้ป้องกันอีกฝ่ายไม่ให้อีกฝ่ายรับเชื้อ ดีกว่าที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่แล้วติดไปด้วยกันทั้งคู่ มีชายหญิงคู่หนึ่งมาตรวจเลือดก่อนแต่ง ปรากฏว่าฝ่ายชายเลือดเอดส์บวก ฝ่ายหญิงไม่บวก ผมถามผู้หญิงว่า รู้อย่างนี้แล้วยังจะแต่งไหม เธอบอกว่า รักเขามาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังยืนยันจะแต่ง ยิ่งมารู้ว่าเขาป่วย จะทิ้งเขาได้อย่างไร จะอยู่กับเขา จะดูแลปรนนิบัติเขาจนกว่าเขาจะหาชีวิตไม่ หลังจากพูดคุยกันแล้วผมก็แนะนำให้ฝ่ายชาย ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เธอถามว่าแล้วอย่างนี้ก็ไม่มีโอกาสมีลูกซิ เธอต้องการมีลูกกับเขา เพื่อเป็นตัวแทนเขาเมื่อยามที่เขาไม่อยู่แล้ว จะให้ทำอย่างไร เพราะถ้าอยากมีลูกก็ต้องไม่ใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งก็เสี่ยงต่อการรับเชื้อ ผมก็แนะนำว่า ถ้าอย่างนั้นก็อาจใช้วิธีผสมเทียม ให้มีการปฏิสนธินอกร่างกายแล้ว ค่อยนำตัวอ่อนฉีดเข้ามดลูก ก็จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการติดเชื้อต่อเธอ ได้

"เอดส์" แม้ยังไม่มียาอะไรจะรักษาได้ แต่เราก็สามารถรักษาเอดส์ได้ ด้วย "ความรัก" และ "กำลังใจ" ครับ

ที่มา : http://pha.narak.com/topic.php?No=15271

1 ความคิดเห็น:

บล็อกของผู้ติดเชื้อเอชไอวี

  • การแพ้ยามีอาการอย่างไร - เรื่อง “การแพ้ยา” เป็นอีกคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะการแพ้ยาเป็นอันตราย อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้ยา จึงได้รับความสนใจและเป็นคำถามประจำ ที่ผู้สั่งจ่ายยา...
    11 ปีที่ผ่านมา
  • slow slow...but sure? - ผลเลือดคราวนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจของตัวเองเท่าไหร่ ขนาดเช้าวันที่ตรวจกระดกแบรนด์ไป 1 ขวดตามคำแนะนำของเพื่อนร่วมโลก เขาบอกให้ลองดูสิตัวเลขจะออกมาสวยเชียวล...
    11 ปีที่ผ่านมา