25 กุมภาพันธ์ 2553

เอดส์..เป็นแล้วตายจริงหรือ?


หลังจากได้ผลยืนยันการตรวจเลือดว่า ติดเอดส์.. ความรู้สึกผมเหมือนฟ้าถล่ม โลกเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ผมถามตัวเองว่า “แล้วกูจะอยู่ได้อีกกี่ปี? ถึง 5 ปีไหมว่ะ?”

ในตอนนั้นความรู้เรื่องโรคเอดส์/การติดเชื้อเอชไอวีของผมเท่ากับหางอึ่ง (โรคเอดส์เป็นเรื่องไกลตัว เพราะผมไม่ได้ไปเที่ยวผู้หญิงบริการ) เหมือนกับคนส่วนใหญ่ในสังคม คำขวัญต่อต้านเอดส์ ที่ติดอยู่ในใจผม “เอดส์.. เป็นแล้วตาย” ทำให้ผมเกิดความคิดว่า ผมไม่สามารถทำอะไรได้อีก ผมไม่สามารถฝัน ผมไม่สามารถหวัง เพราะเดี๋ยวผมก็ต้องตาย

ภรรยาของผมออกจากโรงพยาบาลหลังจากรู้ผลในตอนเช้าว่า ..ติดเชื้อเอชไอวี หมอ..บอกเธอในห้องอายุรกรรมหญิงรวม บรรดาเพื่อนคนไข้ จากที่เคยพูดคุยกับเธอดี เมื่อได้ยินหมอบอกที่เตียงคนไข้ ซึ่งมีคนไข้และญาติประมาณ 10 กว่าคน ..คนไข้หลายคนไม่เคยคุยกับภรรยาของผมอีกเลยจนกระทั่งเธอออกจากโรงพยาบาลในเช้าวันนั้น เธอรอผลตรวจเลือดของผม เพราะพี่พยาบาลบอกกับเธอว่า ผมอาจไม่ติดเชื้อเอชไอวีจากเธอก็ได้

ผมต้องฝืนยิ้ม เมื่อบอกผลการตรวจเลือดกับภรรยา เพราะภรรยาผมยังป่วยอยู่ ผมไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ ..กลัวอาการของเธอทรุดหนัก เพราะตอนนั้น ..เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำอาการป่วยของเธอ เป็นโรคอะไร หลังจากตรวจและวินิจฉัยแน่นอนภายหลัง จึงทราบว่า อาการไข้ขึ้นตอนเย็น หายใจหอบ เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง ของเธอ เป็นอาการของโรคปอดอักเสบพีซีพี ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยเอดส์เสียชีวิตกันมากอีกโรคหนึ่ง
...เรื่องที่ผมเล่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของผม ตอนที่ผมทราบผลการตรวจเลือดว่า ..ติดเชื้อเอชไอวี หรือที่หลาย ๆ คนมักพูดกันว่า ..ติดเอดส์

ผมอยากจะยืนยันว่า “เอดส์.. เป็นแล้วตาย” จริง แต่ก็เหมือนกับคนเป็นโรคอื่น ๆ หรือคนที่ไม่ได้เป็นโรคประจำตัวอะไร

เอดส์.. เป็นแล้วตาย เอดส์..ไม่เป็นแล้วตาย แต่จะตายเมื่อไหร่ บอกไม่ได้ เอดส์ไม่เหมือนมะเร็งที่หมอจะบอกคุณได้ว่า คุณเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย..มีชีวิตอยู่ได้อีก 6 เดือน ซะที่ไหน เมื่อก่อนสมัยยังไม่มียาต้านไวรัส อาจจะบอกได้ว่า เป็นเอดส์แล้วมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 2 – 3 ปี แต่สมัยนี้ แม้คุณจะพัฒนาจาก “ผู้ติดเชื้อเอชไอวี” เป็น “ผู้ป่วยเอดส์” ซึ่งหมายความว่า พัฒนาจน “เป็นเอดส์” เต็มขั้นแล้ว แต่เมื่อคุณรักษา “โรคติดเชื้อฉวยโอกาส” หรือ “โรคแทรกซ้อน” จนหาย และได้รับยาต้านไวรัส คุณก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน หากมีวินัยในการกินยาต้านไวรัส ซึ่งต้องกินไปตลอดชีวิต อายุขัยของผู้ติดเชื้อเอชไอวีแทบจะไม่ต่างจากอายุขัยของผู้ไม่ติดเชื้อ

และเพราะความเชื่อที่ว่า.. เอดส์..รู้เร็ว รักษาได้ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเป็นเพียงผู้ป่วยเรื้อรังที่ยังไม่มียารักษาให้หายขาด คนเราต้องกินต้องใช้ ผมก็ทำมาหากินของผมไปตามปกติ เพราะผมศึกษาจนรู้ว่า เชื้อเอชไอวี(เอดส์..ตามความเชื้อของคนส่วนใหญ่)ไม่ได้ติดกันง่าย ๆ เหมือนที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ การจะติดเชื้อเอชไอวีได้ ต้องประกอบด้วยเงื่อนไข 3 ประการ คือ เชื้อมีคุณภาพดี ปริมาณที่มากพอ มีช่องทางติดต่อโดยตรง และการติดเชื้อเอชไอวีมีการติดต่อได้ 3 ทางเท่านั้น คือ ทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด จากมารดาสู่บุตร(ทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด) การใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน ผมไม่ทำให้ใครติดได้แน่นอน (ยกเว้นมาร่วมเพศกับผม โดยไม่ใส่ถุงยางป้องกัน)

23 กุมภาพันธ์ 2553

ยารักษาเอดส์มีจริงหรือเปล่า?

เอดส์เป็น subset ของเอชไอวี
สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ๆ แล้ว ต่างพากันหวังถึงยารักษาเอดส์ให้หายขาด การจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ ผู้ที่เพิ่งทราบว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวีต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งก่อนว่า เอดส์ ต่างจาก เอชไอวี
เมื่อพูดถึง โรคเอดส์ คนในสังคมส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคนเป็นโรคเอดส์ แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองคำมีความหมายแตกต่างกัน
โรคเอดส์ หมายถึง โรคติดเชื้อต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง จนไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เหมือนกับคนปกติ
เอชไอวี หมายถึง เชื้อไวรัส HIV ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดภูมิคุ้มกันบกพร่องในผู้ติดเชื้อ
นอกจาก ความแตกต่างระหว่าง เอดส์ กับ เอชไอวี แล้ว เรายังต้องเข้าใจความหมายของคำว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวี กับ ผู้ป่วยเอดส์ ด้วย
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หมายถึง ผู้ที่ได้รับการตรวจเลือดและได้รับวินิจฉัยว่า ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งผู้ติดเชื้อเอชไอวี อาจ มีอาการ หรือ ไม่มีอาการ ป่วยด้วยโรคเอดส์
ผู้ป่วยเอดส์ หมายถึง ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ป่วยด้วย โรคติดเชื้อฉวยโอกาส หรือ โรคแทรกซ้อน และเสียชีวิตในที่สุด หากไม่ได้รับการรักษา จากสถิติ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จะกลายเป็น ผู้ป่วยเอดส์ จะต้องใช้เวลาประมาณ 7 - 10 ปี สำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีชาวไทย
ถ้าจะอธิบายในลักษณะที่เป็นรูปธรรมก็คือ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคน ไม่ใช่ ผู้ป่วยเอดส์
แต่ผู้ป่วยเอดส์ทุกคน เป็น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี
ถ้าเคยเรียนเรื่อง set ในวิชาคณิตศาสตร์ สมัยมัธยม คงจะพอเข้าใจได้ว่า ผู้ป่วยเอดส์ เป็น subset ของ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี
ส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัวว่าติดเชื้อเอชไอวี ก็เมื่อมีอาการป่วยสัมพันธ์กับโรคเอดส์ ซึ่งในบางครั้งเชื้อโรคทำลายร่างกายไปมาก กว่าจะวินิจฉัย กว่าจะถึงมือหมอ กว่าจะได้รับยาก็สายเกินไป แต่ผมอยากจะย้ำสักนิดนะครับว่า การเป็นโรคเอดส์สมัยนี้ เอดส์..รู้เร็ว รักษาได้ เพราะอย่างที่บอก โรคเอดส์ เป็นโรคติดเชื้อต่าง ๆ ซึ่งถ้าผู้ป่วยรู้ตัวเร็ว เข้าสู่กระบวนการรักษา หมอก็จะรักษาไปตามอาการป่วย หรือรักษาโรคติดเชื้อนั้น ๆ ไม่ว่าจะเ็ป็น ปอดอักเสบ PCP, วัณโรค, เชื้อราขึ้นสมอง, เชื้อ CMV ขึ้นกระจกตาซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยตาบอดได้ ฯลฯ ซึ่งเมื่อผู้ป่วยหายจากโรคต่าง ๆ และได้รับยาต้านไวรัส จะทำให้ไวรัสลดลง ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นมา จนเมื่อสูงขึ้นถึงจุดหนึ่ง ก็จะมีร่างกายแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันเหมือนคนปกติ แต่จำเ็ป็นต้องกินยาต้านไวรัสไวรัสไปตลอดชีวิต (เรื่องนี้ไว้จะอธิบายภายหน้า) ตรงจุดที่ผู้ป่วยกลับมาแข็งแรงเหมือนคนปกตินี่แหละครับ ที่มักมีการหลอกลวงว่า มียารักษาเอดส์ ได้ ผู้ติดเชื้อ หรือ ผู้ป่วย เสียเงินเป็นจำนวนมาก หวังว่าจะหายจากเอดส์ ส่วนหนึ่งของ ยารักษาโรคเอดส์ พวกนี้ จะเ็ป็นพวกยาลูกกลอน (ผสมสเตียรอยด์) ซึ่งไม่บอกส่วนผสม บางครั้งก็โฆษณาว่า เป็นยาเทวดา ยาพวกนี้ กินปุ้บ ผู้ป่วยรู้สึกดีึ้ขึ้นมาทันตาเห็น แต่พวกเขาไม่รู้ว่า สเตียรอยด์ที่ผสมและทำให้รู้สึกดี แข็งแรง จะไปทำลายภูมิคุ้มกันที่เหลือน้อยอยู่แล้วของเขา ทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ เล่นงานร่างกายเขาได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้เมื่อป่วย พวกเขาต้องเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว อยากจะบอกพวกที่หากินกับความเจ็บป่วยของคนอื่นเหลือเกินว่า คุณเป็นฆาตกร ผู้ป่วยเอดส์หรือผู้ติดเชื้อสมัยนี้ ไม่ได้ตายง่าย ๆ เหมือนสมัยก่อนที่ยังไม่มียาต้านไวรัส ป่วยก็สามารถรักษาได้ทุกโรค ถ้ารู้เร็ว นอกจากนั้นยังรักษาฟรีจากระบบประกันสุขภาพของภาครัฐ ทั้งบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) บัตรประกันสังคง บัตรข้าราชการ ยารักษาโรคเอดส์มีจริง.. ผู้ป่วยสามารถหายจากการป่วยด้วยโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่มอาการโรคเอดส์ได้ ผู้ป่วยเอดส์สามารถกลับมาแข็งแรง และใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีอายุยืนยาวเกือบจะเท่าึคนปกติ แต่..ยารักษาโรคเอดส์ที่ผมพูดถึง เป็นยาแผนปัจจุบัน เป็นยาที่ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ในกรณีที่คุณเป็นคนไทย (ยกเว้นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อไปรับยาเป็นประจำ) แต่ยารักษาการติดเชื้อเอชไอวีให้หายขาดไม่มีอยู่ในร่างกายผู้ติดเชื้อ ที่เป็นความหวังของผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคน ยังไม่มี..
ยังไม่มี.. ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี จากการศึกษาของผม โรคเอดส์เป็นโรคที่มีความก้าวหน้าในการค้นคว้าวิจัยเร็วที่สุดในโลก มีงานวิจัยต่าง ๆ มากมาย มีนักวิทยาศาสตร์มากมาย บุคลากรทางการแพทย์ร่วมมือกันค้นคิดวิธีการรักษา ผมอาจจะบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ เพราะจา่กการศึกษา ข่าวที่เป็นความหวังบอกว่าปีนั้น ปีนี้ แต่แล้วก็เงียบหายไป อยากจะบอกเพื่อนผู้ติดเชื้อทุกคนว่า หวังได้.. แต่อย่าถึงกับกำหนดกฏเกณฑ์ว่าจะต้องเป็นเมื่อไหร่ เพราะเราไม่ได้เป็นคนคิดค้นยารักษาเอง เราไม่ได้ทดลองเอง เราไม่ได้เป็นผู้ผลิตเอง เราไม่ได้เป็นผู้จำหน่าย เราไม่ได้เป็นผู้ให้ทุนการค้นคว้าวิจัย เราทำได้แต่เพียงเฝ้ารอข่าวดี การประกาศความสำเร็จในการรักษาที่วงการแพทย์ให้การรับรอง ที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพให้การรับรอง อย่าไปเชื่อข่าวลือ อย่าไปเชื่อเขาบอก.. เพราะถ้ารักษาหายจริง รับรองคนคิิดวิธีการรักษารวย และมีชื่อเสียงอยู่ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติแน่ ๆ เพราะเขาเป็นผู้ที่ช่วยเหลือมนุษย์หลายสิบล้านคนทั่วโลก เขาคงไม่เอาชีวิตตนเองมาแลกกับค่ายาทีละหลายพัน หลายหมื่น ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสร่ำรวยและสร้างชื่อเสียงในระดับโลกได้
อยากจะบอกเพื่อนผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคนว่า.. ยารักษาเอดส์มีจริง แต่ยารักษาการติดเชื้อเอชไอวี ยังไม่มี

16 กุมภาพันธ์ 2553

เปิดใจ เภสัชกรยิปซี เจ้าของรางวัลแม็กไซไซ ชาวไทยคนล่าสุด

จากส่วนหนึ่งของกระทู้ http://pha.narak.com/topic.php?No=37578 ..ราคายาต้านในเมืองไทย ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ราคาถูกมาก เช่น GPO vir S-30 ราคา 990 บาท GPO vir Z-250 ราคา 1320 บาท เป็นยาฝีมือคนไทยที่น่าภาคภูมิใจ เเละเป็นผลงานความดีของหลายๆคนในวงการเเพทย์ โดยเฉพาะ ดร. กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรใจพระที่ปิดทองหลังพระ ในการค้นคว้าวิจัย ในการผลิตยาต้านครั้งนี้ รวมทั้งอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้กล่าวนามด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น เภสัชกร เเพทย์ เทคนิคการเเพทย์ ผู้ช่วย พนักงานต่างๆ ทุก step การทำงานเพื่อให้ ผู้ติดHIV ในเมืองไทย ได้รับยาเข้าถึงยามากขึ้น ในราคาไม่เเพง สดุดี ทุกท่านที่ทำงานเอดส์ ทุกระดับ ทุกตำเเหน่ง จากใจให้ทุกคน โดยเฉพาะ อาจารย์ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรยิปซี ที่มีผลงานยาต้านเอดส์ข้ามทวีปไปถึงเเอฟริกา ในการเป็นตัวตั้งตัวดี ให้คนเเอฟริกาเข้าถึงยาต้านราคาถูกมากขึ้น เป็นคนที่มีจริยธรรม และธรรมะสูงส่งคนหนึ่ง ขอประกาศนาม ชื่นชมเเซ่ซ้อง สดุดี ไว้ ด้วย ณ ที่นี้ บังเอิญ ผมได้พบคลิปวิดีโอรายการสัมภาษณ์ท่าน ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ จึงอยากเอามาเผยแพร่ให้เพื่อน ๆ ได้่รู้จักท่านกัน ขอขอบคุณ คลิปวิดีโอ บทสัมภาษณ์จาก http://www.voicetv.co.th/ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

บล็อกของผู้ติดเชื้อเอชไอวี

  • การแพ้ยามีอาการอย่างไร - เรื่อง “การแพ้ยา” เป็นอีกคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะการแพ้ยาเป็นอันตราย อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้ยา จึงได้รับความสนใจและเป็นคำถามประจำ ที่ผู้สั่งจ่ายยา...
    11 ปีที่ผ่านมา